2007年7月27日金曜日



ปัจจุบัน สถานะของสาธารณรัฐจีนบนเกาะไต้หวันได้รับการรับรองโดยประเทศเพียง 25 ประเทศ ดังนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของสาธารณรัฐจีนจึงเน้นเฉพาะความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับประเทศที่รับรองสถานะของสาธารณรัฐจีน และความสัมพันธ์ในเชิงพฤตินัยกับประเทศอื่น ๆ
ทางด้านสถานะทางการเมืองของไต้หวัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐจีนนั้นมีรายละเอียดอยู่ที่ สถานะทางการเมืองของไต้หวัน



สารบัญ



ประวัติศาสตร์



ความขัดแย้งในระดับนานาชาติ
ทั้ง 25 ประเทศนี้มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐจีนอย่างเป็นทางการ โดยรับรองสถานะเป็นรัฐบาลโดยชอบธรรมเพียงหนึ่งเดียวเหนือแผ่นดินจีนทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะในอาณาเขตของหมู่เกาะในปัจจุบัน ซึ่งประกอบไปด้วย เกาะไต้หวัน, หมู่เกาะเผิงหู, เกาะจินเหมิน และหมู่เกาะหมาจู่ และเกาะเล็กเกาะน้อยอื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่ง
ประเทศเกาหลีใต้และซาอุดีอาระเบียได้ยุติความสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐจีนในปี พ.ศ. 2535 (ค.ศ. 1992) และประเทศแอฟริกาใต้ได้เปลี่ยนไปรับรองสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี พ.ศ. 2541 (ค.ศ. 1998) สาธารณรัฐไลบีเรียเปลี่ยนจากการรับรองสาธารณรัฐประชาชนจีนมารับรองรัฐบาลบนเกาะไต้หวันในปี พ.ศ. 2532 (ค.ศ. 1989) และเปลี่ยนกลับไปรับรองรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2546 (พ.ศ. 2003) ทางเค�! ��ือรัฐโดมินิกาหลังจากรับรองสาธารณรัฐจีนมาตั้งแต่ พ.ศ. 2526 (ค.ศ. 1983) ก็ได้ยุติการรับรองลงในวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2547 (ค.ศ. 2004) เนื่องจากสาธารณรัฐประชาชนจีนได้เสนอให้ความช่วยเหลือเป็นมูลค่ากว่า 117 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในหกปี ส่วนสาธารณรัฐมาซิโดเนียซึ่งรับรองสาธารณรัฐจีนมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534 (ค.ศ. 1991) ก็ได้เปลี่ยนไปสานสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐประชาชนจีนแทน หลังจากถ! ูกจีนแผ่นดินใหญ่คว่ำบาต� ��ทางเศรษฐกิจ และใช้สิทธิ์วีโต้ขัดขวางขบวนการรักษาสันติภาพในการประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งองค์การสหประชาชาติเมื่อปี พ.ศ. 2544 (ค.ศ. 2001)
ถึงแม้ว่าสิงคโปร์จะเปลี่ยนไปสานสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี พ.ศ. 2535 (ค.ศ. 1992) แต่ก็ยังคงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและกองทัพกับสาธารณรัฐจีนอย่างใกล้ชิด อันเป็นความพยายามของสิงคโปร์ที่จะวางตัวเป็นกลางระหว่างทั้งสองฝ่าย และก็เป็นเรื่องละเอียดอ่อนทางการทูตที่มักจะทำให้เกิดความขัดแย้งกันอยู่เสมอ สาธารณรัฐประชาชนจีนและสิงค์โปร์เกิดค�! ��ามขัดแย้งทางการทูตกันอย่างรุนแรงเมื่อนายลี เซียน ลุง ได้เดินทางไปเยือนไต้หวันเพียงหนึ่งเดือนก่อนหน้าที่จะเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ในวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2547 (ค.ศ. 2004) [1] ปัจจุบันสิงคโปร์เป็นประเทศเดียวที่ยังคงมีค่ายฝึกทหารอยู่ในไต้หวัน และยังส่งกำลังพลไปฝึกที่นั่นเป็นประจำทุกปี ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ได้มีการพูดคุยถึงความเป็นไปได้ที! ่จะย้ายค่ายฝึกบางส่วนหร� ��อทั้งหมดไปยังไหหนานตามข้อเสนอของสาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงแม้ว่านั่นอาจจะเป็นข้อเสนอที่ไม่สามารถตอบรับได้เนื่องจากอาจเกิดปัญหาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสิงคโปร์กับประเทศเพื่อนบ้านที่ไม่มีเชื้อสายชาวจีน [2] [3]
ประเทศที่มีสถานทูตประจำอยู่ในไทเป ได้แก่ สาธารณรัฐกัวเตมาลา, สาธารณรัฐแกมเบีย, สาธารณรัฐคอสตาริกา, สาธารณรัฐชาด, สาธารณรัฐประชาธิปไตยเซาตูเมและปรินซิปี, หมู่เกาะโซโลมอน, สาธารณรัฐโดมินิกัน, สาธารณรัฐนิการากัว, ประเทศบูร์กินาฟาโซ, ประเทศเบลีช, สาธารณรัฐปานามา, สาธารณรัฐปารากวัย, สาธารณรัฐปาเลา, สาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์, สาธารณรัฐมาลาวี, ประเทศสวาซิ! แลนด์, ทำเนียบสันตะปาปา, สาธารณรัฐเอลซัลวาดอร์, สาธารณรัฐฮอนดูรัส, และสาธารณรัฐเฮติ

สาธารณรัฐกัวเตมาลา (พ.ศ. 2503 (ค.ศ. 1960))
สาธารณรัฐแกมเบีย (พ.ศ. 2538 (ค.ศ. 1995))
สาธารณรัฐคอสตาริกา (พ.ศ. 2502 (ค.ศ. 1959))
สาธารณรัฐคิริบาส (พ.ศ. 2546 (ค.ศ. 2003))
สาธารณรัฐชาด (พ.ศ. 2540 (ค.ศ. 1997))
สหพันธรัฐเซนต์คิตส์และเนวิส (พ.ศ. 2526 (ค.ศ. 1983))
ประเทศเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ (พ.ศ. 2524 (ค.ศ. 1981))
สาธารณรัฐประชาธิปไตยเซาตูเมและปรินซิปี (พ.ศ. 2540 (ค.ศ. 1997))
หมู่เกาะโซโลมอน (พ.ศ. 2526 (ค.ศ. 1983))
สาธารณรัฐโดมินิกัน (พ.ศ. 2500 (ค.ศ. 1957))
ประเทศตูวาลู (พ.ศ. 2522 (ค.ศ. 1979))
สาธารณรัฐนาอูรู (พ.ศ. 2523, 2548 (ค.ศ. 1980, 2005))
สาธารณรัฐนิการากัว (พ.ศ. 2533 (ค.ศ. 1990))
ประเทศบูร์กินาฟาโซ (พ.ศ. 2537 (ค.ศ. 1994))
ประเทศเบลีช (พ.ศ. 2532 (ค.ศ. 1989))
สาธารณรัฐปานามา (พ.ศ. 2497 (ค.ศ. 1954))
สาธารณรัฐปารากวัย (พ.ศ. 2500 (ค.ศ. 1957))
สาธารณรัฐปาเลา (พ.ศ. 2542 (ค.ศ. 1999))
สาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ (พ.ศ. 2541 (ค.ศ. 1998))
สาธารณรัฐมาลาวี (พ.ศ. 2509 (ค.ศ. 1966))
ประเทศสวาซิแลนด์ (พ.ศ. 2511 (ค.ศ. 1968))
ทำเนียบสันตะปาปา (พ.ศ. 2485 (ค.ศ. 1942))
สาธารณรัฐเอลซัลวาดอร์ (พ.ศ. 2534 (ค.ศ. 1961))
สาธารณรัฐฮอนดูรัส (พ.ศ. 2508 (ค.ศ. 1965))
สาธารณรัฐเฮติ (พ.ศ. 2499 (ค.ศ. 1956))

รายชื่อประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐจีน


ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของสาธารณรัฐจีน
ความสัมพันธ์สหรัฐ-ไต้หวัน
ในปัจจุบัน ไม่มีการสานสัมพันธ์ทางการทูตในระดับทางการ แต่จะเป็นการประสานสัมพันธ์ทางด้านการค้าและวัฒนธรรมอย่างไม่เป็นทางการแทน โดยดำเนินการผ่านสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ซึ่งโดยพฤตินัยแล้วเทียบได้กับสถานทูต มีสำนักงานตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และในอีก 12 เมืองทั่วสหรัฐอเมริกา โดยทางเทคนิคแล้วถือว่าสำนักงานมีสถานะเป็นองค์กรเอกชน แต�! �เจ้าหน้าที่ของสำนักงานก็คือ นักการทูตที่ "ออกจากงานชั่วคราว"



ตัวแทนความสัมพันธ์จากสหรัฐอเมริกา



ความสัมพันธ์กับสาธารณรัฐประชาชนจีน
เพื่อเป็นการรักษาความสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐประชาชนจีน ประเทศต่าง ๆ จึงได้จัดตั้ง 'คณะทำงานทางการค้า' หรือ 'สำนักงานตัวแทน' ขึ้นในไทเปสำหรับการปฏิบัติภารกิจทางด้านการค้าและกงสุล อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความอ่อนไหวทางการเมืองทำให้งานทางด้านวีซ่ามักจะไม่ได้ดำเนินการในไต้หวันแต่จะถูกส่งต่อไปยังสถานทูตหรือสถานกงสุลที่ใกล้ที่สุดแทน และในท! างกลับกัน ทางสาธารณรัฐจีนก็ได้ดำเนินการจัดตั้ง สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป หรือ สำนักงานตัวแทนไทเป ขึ้นในประเทศต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน
สาธารณรัฐจีนได้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคและการแข่งขันกีฬานานาชาติอื่น ๆ ภายใต้ชื่อ 'จีนไทเป' โดยมีการเปลี่ยนธงชาติและเพลงชาติใหม่ เนื่องจากการกดดันจากสาธารณรัฐประชาชนจีน
ปัญหาในเรื่องสถานะของสาธารณรัฐจีนนั้นยังส่งผลกระทบกับเส้นทางการบินด้วย โดยเฉพาะประเทศในยุโรป, อเมริกาเหนือ และออสเตรเลีย สายการบินแมนดารินแอร์ไลน์ซึ่งเป็นสายการบินลูกของไชน่าแอร์ไลน์อันเป็นสายการบินประจำชาติของสาธารณรัฐจีนได้ให้บริการไปยังจุดหมายปลายทางหลายแห่งในต่างประเทศแทนสายบินแม่เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางการเมือง แต่ในปี พ.ศ. 2538 (ค.ศ. 1998! ) ไชน่าแอร์ไลน์ก็ได้เปลี่ยนเครื่องแบบพนักงานใหม่โดยไม่มีการใช้สีธงชาติของสาธารณรัฐจีนอีกต่อไป และเริ่มบินให้บริการไปยังต่างประเทศภายใต้ชื่อของตัวเอง
สายการบินประจำชาติอื่น ๆ หลายแห่งก็ได้ให้บริการเส้นทางไปยังไทเปโดยใช้ชื่อและเครื่องแบบพนักงานอื่นแทน ตัวอย่างเช่น บริติชแอร์เวย์ไม่มีเส้นทางบินระหว่างลอนดอนกับไทเปเลย แต่ให้บริการโดยสายการบินลูกที่ชื่อ บริติชเอเชียแอร์เวย์ โดยมีตัวอักษรจีนบนหางเครื่องบินแทนรูปธงสหราชอาณาจักรที่บริติชแอร์เวย์ใช้ สายการบินแควนตัสของออสเตรเลียก็มีสายการ! บินลูกชื่อ ออสเตรเลียเอเชียแอร์ไลน์ ซึ่งมีเส้นทางบินระหว่างซิดนีย์และไทเป และในปัจจุบันก็ใช้วิธีบินร่วมกับอีวีเอแอร์ ซึ่งเป็นสายการบินสัญชาติไต้หวัน
ในช่วงก่อนที่รันเวย์ที่สองของสนามบินนานาชาติโตเกียวแห่งใหม่จะสร้างเสร็จ หรือชื่อในปัจจุบันคือ ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ สายการบินจากไต้หวันจะต้องบินไปลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติโตเกียว (รู้จักกันในชื่อ "สนามบินฮะเนะดะ") เพื่อหลีกให้กับสายการบินจากสาธารณรัฐประชาชนจีนที่บินไปลงที่นะริตะ และเช่นเดียวกับสายการบินอื่น ๆ เจแปนแอร์ไลน์ก็ได้จัดตั้�! ��สายการบินลูกชื่อ เจแปนเอเชียแอร์ไลน์ เพื่อบินในเส้นทางไต้หวันแทน
รหัสโทรศัพท์ระหว่างประเทศซึ่งจะกำหนดโดยสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศให้กับประเทศสมาชิก ทางสาธารณรัฐจีนซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกของสหภาพ แต่ก็ได้รับการกำหนดรหัส 886 ให้อย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งเป็นรหัสที่ทางสหภาพระบุไว้ว่า 'สำรอง' ทางสาธารณรัฐประชาชนจีนไม่ได้รับรองการใช้รหัสประเทศ 886 นี้ ถึงแม้ว่าจะรับรองการใช้รหัสประเทศที่กำหนดให้กับฮ่องกงและมาเก๊�! �ก็ตาม โดยได้สำรองหมายเลขโทรศัพท์หมวด 26 ไว้ใช้สำหรับเมืองไทเป และหมวด 06 สำหรับส่วนอื่น ๆ ของไต้หวัน


�
การเข้าร่วมเป็นสมาชิกในองค์กรนานาชาติ

สาธารณรัฐจีน
จีนไทเป

0 件のコメント: